Wednesday 15 February 2017

ยุทธศาสตร์พระราชทาน "เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา"

ยุทธศาสตร์พระราชทาน "เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา" ของในหลวงรัชกาลที่ ๙ สามารถนำมาปรับใช้ในการปฏิบัติหน้าที่พัฒนาและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของประชาชนได้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้

นี่คือคำบอกเล่าของ พล.ต.อ.สมศักดิ์ แขวงโสภา อดีตผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (อดีต ผบช.ตชด.) ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการลูกเสือชาวบ้านในพระบรมราชานุเคราะห์ เกี่ยวกับการน้อมนำ ศาสตร์ของพระราชา” ในด้าน เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” มาปรับใช้กับการทำงานของ ตชด.ในทุกท้องถิ่นห่างไกล

หัวใจสำคัญก็คือ ต้องคำนึงถึงประโยชน์สุขของประชาชนเป็นที่ตั้ง และต้องทำให้ประชาชนไว้วางใจตำรวจ (รวมถึงหน่วยงานอื่น ๆ ด้วย)

แนวทางแบบนี้แก้ไขปัญหามาแล้วแทบทุกพื้นที่ของประเทศไทย และสามารถดับไฟแห่งความรุนแรง ณ ดินแดนปลายด้ามขวานได้ด้วย โดยเจ้าหน้าที่จะต้องไม่ใช้ความรุนแรงในการจัดการปัญหา และเปิดให้ชาวบ้านในพื้นที่มีส่วนร่วมมากที่สุด

จริง ๆ แล้วยุทธศาสตร์ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ไม่ใช่ยุทธศาสตร์แรกที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานแก่ข้าราชการเพื่อใช้เป็นแนวทางในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชน แต่พระองค์ท่านเคยพระราชทานมาก่อนหน้านั้นแล้ว เช่น ยุทธศาสตร์การทำงานของ ตชด.ที่พระราชทานเมื่อปี ๒๕๑๓ ที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

แต่คำว่า เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ที่พระองค์ท่านพระราชทานเป็นยุทธศาสตร์ในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อปี  ๒๕๔๗ เสมือนเป็นการตกผลึกแนวพระราชดำริทั้งหมดผ่านคำสั้นๆ แค่ ๓ คำ

พระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ท่านทรงมีต่อ ตชด. จากการที่ทรงลงพื้นที่เยี่ยมเยียนการทำงานของตำรวจตระเวนชายแดนในท้องถิ่นทุรกันดารแทบทุกพื้นที่ ทำให้แนวพระราชดำรัสนี้ซึมลึกเข้าไปในสายเลือด ตชด.ทุกนาย

เป็นแนวทางการทำงานที่ ตชด.ถือปฏิบัติกันมาตลอด เมื่อผมขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการ ตชด.ในปี ๒๕๔๗ ก็ได้ประยุกต์ยุทธศาสตร์พระราชทานที่สั่งสมในความคิดและประสบการณ์ออกมาเป็นแนวทางการทำงานที่เรียกว่า ๗ ย. ได้แก่ เยี่ยมเยียน ยิ้มแย้ม ยกย่อง แยกแยะ เยียวยา ยุติธรรม และยั่งยืน”

อย่างเมื่อเราเข้าไปทำงานในพื้นที่ เริ่มแรกก็ต้องไปเยี่ยมเยียนชาวบ้านก่อน เวลาไปก็ต้องยิ้มแย้มแจ่มใส ยกย่องคนที่เราเข้าไปพบปะพูดคุยด้วย พร้อมทั้งแยกแยะคนไม่ดีออกจากคนดี และมีความยุติธรรม สิ่งสำคัญคือต้องทำอย่างยั่งยืน ไม่ใช่ไปโชว์ออฟ ทำดียัดไส้ หรือทำดีเอาหน้า แต่ต้องบูรณาการการทำงานเพื่อให้ก้าวเดินต่อไปอย่างยั่งยืน” อดีต ผบช.ตชด.ระบุ

ยุทธศาสตร์ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” แม้จะใช้คำสั้นๆ เข้าใจง่าย แต่ในบริบทของการทำความเข้าใจเพื่อแปรไปสู่การปฏิบัตินั้น พล.ต.อ.สมศักดิ์ บอกว่า มีรายละเอียดเยอะมาก อย่างเรื่อง ความเข้าใจ” ต้องเข้าใจทั้งประวัติศาสตร์ ปูมหลัง สภาพภูมิสังคม ส่วน เข้าถึง” ก็ต้องเข้าถึงคน พื้นที่ และสถานการณ์ต่างๆ สิ่งสำคัญต้องเข้าถึงจิตใจของประชาชน หากไม่เข้าใจก็จะเข้าไม่ถึง และเกิดความหวาดระแวงตามมา สำหรับ "พัฒนา" ในหลวง ร.๙ ทรงปฏิบัติด้านการพัฒนามาตลอดพระชนมชีพของพระองค์ท่านและได้พระราชทานคำขวัญแก่กรมการพัฒนาชุมชนเนื่องในวันพัฒนาเมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๑ เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติตัวและปฏิบัติหน้าที่ของนักพัฒนา "พัฒนา คือ สร้างสรรค์"

ปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความซับซ้อน เพราะมีประเด็นเรื่องชาติพันธุ์กับศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย จึงถือเป็นปัญหาสังคมจิตวิทยาที่ละเอียดอ่อนมาก แม้คนที่คิดแยกดินแดนหรือเป็นผู้ก่อความไม่สงบจะเป็นคนส่วนน้อยของพื้นที่ แต่ก็เป็นคนส่วนน้อยที่มีพลัง การแก้ไขปัญหาจึงต้องเข้าใจมิติต่างๆ เหล่านี้ ยกตัวอย่างง่ายๆ เราทำดีในพื้นที่เยอะมาก แต่พอผิดนิดเดียว ทุกอย่างพลิกหมดเลย ไม่ใช่แค่เป็นศูนย์ แต่ติดลบ” อดีต ผบช.ตชด.ระบุ

วิธีการทำงานดังที่เอ่ยถึงในตอนต้น คือ ไม่ใช้ความรุนแรง และให้ประชาชนมีส่วนร่วมนั้น พล.ต.อ.สมศักดิ์ เคยทำกระทั่งประสบความสำเร็จมาแล้ว ถือเป็นการน้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทานมาปรับใช้อย่างเห็นผล

ช่วงเป็น ผบ.ร้อย ราว ๆ ปี ๒๕๑๔ ผมประจำอยู่ที่ อ.ยะหา จ.ยะลา ตอนนั้นชาวบ้านบอกว่าอยากได้อาคารเรียน เราก็สร้างให้ สมเด็จย่าพระราชทานพระราชทรัพย์ให้ ๕ หมื่นบาท”

ด้วยเงินจำนวนนี้ เราสามารถสร้างอาคาร ๕ ห้องเรียน กับบ้านพักอีก ๒ หลัง สาเหตุที่ทำได้เพราะทุกฝ่ายช่วยกัน ทั้งนายอำเภอและประชาชน โดยเฉพาะชาวบ้านมาลงแรงช่วยจนไม่ต้องจ้างแรงงาน ไม้บางส่วนชาวบ้านก็บริจาค เมื่อทุกคนมาร่วมกันทำงานก็ทำให้เกิดความผูกพัน ทั้งระหว่างชาวบ้านด้วยกัน ชาวบ้านกับเจ้าหน้าที่ และความผูกพันกับวัตถุ ก็คือโรงเรียน”

ช่วงหลายปีที่ผ่านมา เกิดเหตุรุนแรงกับครูและสถานศึกษาจนโรงเรียนหลายแห่งต้องปิดการเรียนการสอน แต่โรงเรียน ตชด.ไม่เคยปิด ทั้งยังมีชาวบ้านมาช่วยนอนเฝ้าเวลากลางคืนด้วย”

พล.ต.อ.สมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า โครงการก่อสร้างต่าง ๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานพัฒนานั้น ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนหรือสิ่งปลูกสร้างอะไรก็ตาม ทุกแห่งมีเป้าหมายเดียวกันคือ เป็นสะพานให้เจ้าหน้าที่รัฐเดินเข้าไปในหัวใจประชาชน

และนั่นก็คือ ผลจากยุทธศาสตร์พระราชทาน...เข้าใจ  เข้าถึง พัฒนา

--------------------------------
เนื้อหาส่วนใหญ่อ้างอิงจาก: http://www.isranews.org/isranews-article/item/51414-solve.html

โดย อนุรักษ์ เพ็ญสวัสดิ์ และ ปกรณ์ พึ่งเนตร
เขียนเมื่อวันที่วันเสาร์ ที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ เวลา ๒๓:๒๙ น.

--------------------------------
๒. http://www.sator4u.com/paper/2112

เข้าใจ หมายถึง ความเข้าใจแจ่มชัดในประเด็น จุดมุ่งหมาย ทิศทางของงานที่ทำ กล่าวคือ ทำอะไร เพื่อให้เกิดความ “เข้าใจ” บุคลากรภาครัฐคงต้องศึกษาใช้วิธีประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้ทราบถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าใจในปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น เข้าใจถึงนโยบายของรัฐ นโยบายศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ นโยบายกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน นโยบายจังหวัด นโยบายกรมประชาสัมพันธ์ เพื่อที่จะได้สื่อสารกับประชาชนในพื้นที่ให้ถูกต้อง

เข้าถึง  หมายถึง การเข้าถึงปัจจัย เช่น องค์ความรู้ หลักคิดทฤษฎี แนวทาง ทรัพยากรการบริหารต่าง ๆ ของงานที่กำลังทำ กล่าวคือ เมื่อทำความเข้าใจกับข้อมูลข่าวสารและแนวทางต่าง ๆของภาครัฐแล้ว ก็ต้องพยายามเข้าถึงพื้นที่ เพื่อไปรับฟังปัญหา รับทราบข้อมูล ความจริง ความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง เพื่อนำมาวางแผนดำเนินการประชาสัมพันธ์ถึงแนวนโยบาย และวิธีการแก้ไขปัญหาของภาครัฐ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ เข้าใจและให้ความไว้วางใจ มีความรู้สึกรัก ผูกพัน โดยคำนึงถึงกาลเทศะ ความเหมาะสมในด้านต่าง ๆ โดยต้องดำเนินการให้เกิดความร่วมมือจาก ผู้นำชุมชนในด้านต่างๆเช่น ผู้นำศาสนา ผู้นำหน่วยงาน องค์การบริหารส่วนตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อประโยชน์ในการประสานงานทำงาน ร่วมกันในทุกๆโอกาส โดยสร้างเครือข่ายขึ้น เพื่อเป็นเครื่องมือในการเผยแพร่ข่าวสารได้อย่างกว้างขวางเข้าถึงความเข้าใจในทุกพื้นที่

พัฒนา หมายถึง การลงมือกระทำ และหาทางต่อยอดองค์ความรู้เดิมให้ดีขึ้น  สิ่งที่ต่อยอดนี้เป็นองค์ความรู้ใหม่ ที่เรียกว่า นวัตกรรม (Innovation) เกิดวิธีคิดใหม่ (Paradigm) ที่เป็นของตน ส่วนนี้ถือว่าเป็นองค์ความรู้ที่จะเปิดทางให้ผู้อื่นได้เรียนรู้และต่อยอด กล่าวคือ การพัฒนานั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะแนวทางการพัฒนาจำเป็นจะต้องเป็นส่วนหนึ่งในความต้องการพื้นฐานของประชาชนในพื้นที่ จำเป็นที่จะต้องมีการทำประชาพิจารณ์ การมีส่วนร่วม การรับฟังความคิดเห็นอย่างหลากหลาย พร้อมกับต้องชี้แจง ในทุกด้าน ทั้งที่เป็นไปได้ และไม่อาจเป็นไปได้ จนได้ผลสรุปร่วมกันในที่สุด ผู้ที่จะทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ต้องมีความสามารถรอบด้าน มีภูมิปัญญา ความรู้ ทันเหตุการณ์ความเปลี่ยนแปลง ต่าง ๆ สามารถเข้ากับประชาชน กลุ่มคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ต้องมีวิธีการสื่อสารที่มีคุณภาพ มีความทันสมัยใช้ได้กับทุกพื้นที่ทุกสถานการณ์ 

No comments:

Post a Comment