Friday, 17 April 2020

เหตุการณ์ COVID-19 ทำให้พฤติกรรมของคนแปรเปลี่ยนไป


เหตุการณ์ COVID-19 ทำให้พฤติกรรมของคนแปรเปลี่ยนไปด้วย ฉะนั้น พึงสังเกตพฤติกรรมของตนเองและ/หรือพฤติกรรมของคนรอบข้างว่า แปรเปลี่ยนเป็นพฤติกรรมที่จะนำมาซึ่งปัญหาหรือกลายเป็นบุคคลอันตราย มีอยู่ จำนวน ๓ พฤติกรรม หรือเรียกว่า พฤติกรรม CTD ได้แก่
๑. พฤติกรรมที่น่าเป็นห่วง (Concerning Behavior) เป็นขั้วที่มีความร้ายแรงน้อยที่สุด
๒. พฤติกรรมที่น่ากลัว (Threatening Behavior) เป็นพฤติกรรมที่อยู่ระหว่างขั้ว C กับ D พฤติกรรมของคนจะมีการเปลี่ยนแปลงไปมาอยู่ตลอดเวลา มันจะไหลลื่นและแปรเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
๓. พฤติกรรมที่เป็นอันตราย (Dangerous Behavior) เป็นขั้วที่มีความร้ายแรงมากที่สุด

พฤติกรรม CTD สามารถอธิบายอย่างคร่าว ๆ  ที่ควรต้องเข้าใจจดจำให้ได้และตีความเชิงลึกให้ออก มี ดังนี้
๑. วู่วาม หมายถึง กระทำการอันใดโดยแทบไม่เคยคิด (หรืออาจไม่เคยคิด) ถึงผลระยะยาวหรือระยะสั้นที่จะเกิดขึ้นกับตัวเองหรือคนอื่นเลย
๒. ขี้โมโหอย่างเกินเหตุ หมายถึง ชอบระเบิดอารมณ์อย่างไม่เหมาะสมและเกินจำเป็นในสถานการณ์ต่าง ๆ คนขี้โมโหพวกนี้ จะไม่สามารถหรือไม่อยากควบคุมความโกรธของตัวเอง คนแบบนี้ จะมีความโกรธที่อัดแน่นและครุกรุ่นอยู่ในทุกอณูของร่างกาย
๓. หลงตัวเอง หมายถึง ชอบทำอะไรโดยยึดตัวเองเป็นหลักจองหองพองขน แทบจะไม่เคยเข้าใจหรือห่วงใยคนอื่นเลยพวกหลงตัวเองจะรู้สึกว่า ตัวเองนั้นเป็นผู้สูงศักดิ์และมีอำนาจเหนือคนอื่น และคิดว่าคนอื่น จะต้องมองว่าตนนั้น เป็นคนพิเศษที่ควรให้การดูแลในระดับที่แตกต่างไปจากคนปกติทั่วไป คนเหล่านี้ จะเชื่อว่าตนเองนั้น คือ คนพิเศษที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใครและอยู่ในสถานะที่สูงกว่าคนอื่น
๔. ไม่เคยเข้าใจในความรู้สึกของผู้อื่น หมายถึง ไม่เคยและไม่อยากจะเข้าใจในความรู้สึกความห่วงใยและความคิดเห็นของคนอื่นเลย คนแบบนี้ จะไม่เคยเข้าใจในความรู้สึกและไม่เคยเห็นใจใคร
๕. ชอบสะสมบัญชีความแค้นเอาไว้ในใจ (Injustice Collector) หมายถึง คนเหล่านี้ จะสะสมบัญชีความแค้นหรือเรื่องที่ไม่ยุติธรรม ทั้งที่เป็นเรื่องจริงหรือมโนไปเอง เอาไว้ในใจจนกว่าชีวิตจะหาไม่ คนเหล่านี้ จะตอบสนองต่อความไม่ยุติธรรมทั้งหมดนี้ในระดับที่เกินกว่าที่รับรู้อยู่ในใจไปเยอะเลย
๖. มองคนอื่นเป็นวัตถุไปหมด หมายถึง ชอบลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนอื่น และไม่เคยมองคนอื่นเป็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน คนที่มีพฤติกรรมแบบนี้ อาจไม่เคยมองคนอื่นในฐานะที่เป็นบุคคลเลย แต่จะมองว่าเป็นข้าวของเครื่องใช้ ทำให้ชอบถือปฏิบัติต่อคนอื่นเหมือนไม่ใช่มนุษย์
๗. โทษคนอื่นว่าเป็นสาเหตุของความผิดพลาดและปัญหา หมายถึง ชอบมองตัวเองว่าเป็นเหยื่อที่ถูกกระทำ และไม่เคยคิดที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยแก้ปัญหาชีวิตให้กับใครทั้งหมด ล้วนเป็นความผิดของใครบางคนทั้งนั้น
๘. หวาดระแวง หมายถึง รู้สึกเคลือบแคลงในแรงจูงใจและเจตนาของคนอื่นอยู่เสมอ
๙. ชอบแหกกฎ หมายถึง คนที่ไม่เคยยึดถือปรัชญาชีวิตที่ว่า ทุกสังคมย่อมต้องมีกฎเกณฑ์ไว้ให้เดินตาม
๑๐. นิยมความรุนแรง หมายถึง คนที่เคยมีประวัติชอบใช้ความรุนแรงหรือทำเรื่องอันตราย มาแล้วมากมาย เช่น ข่มขืนทำร้ายร่างกาย ข่มขู่มีเรื่องบนท้องถนนไปทั่ว ฯลฯ 
๑๑. เฝ้าฝันที่จะได้ก่อเหตุรุนแรง หมายถึง มีความคิดที่จะฆ่าตัวตาย ก่อเหตุฆาตกรรมหรือไม่เคยเชื่อในหลักธรรมคำสอนใด ๆ คนที่มีพฤติกรรมอย่างนี้ จำเป็นจะต้องส่งตัวให้ไปอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตหรือฝ่ายบ้านเมืองโดยมิรอช้า
๑๒. ติดยาเสพติดและ/หรือเหล้า หมายถึง ชอบเสพยาและ/หรือเหล้า ซึ่งจะยิ่งทำให้มีพฤติกรรม CTD อย่างอื่นมากขึ้นไปอีก
๑๓. ควบคุมตัวเองไม่ได้ หมายถึง ไม่สามารถจัดการกับความเครียด ความผิดหวังปัญหาและ/หรือเรื่องยุ่งยากในชีวิตประจำวันได้
๑๔. จงเกลียดจงชังผู้คนไปทั่ว หมายถึง ไม่ชอบและ/หรือจงเกลียดจงชังคนอื่นหรือคนกลุ่มอื่น เนื่องจาก ความผิดทั้งที่เป็นเรื่องจริงและที่มโนไปเอง หรือเนื่องจากความเชื่อและความคิดเห็นในเรื่องอื่น ๆ 
๑๕. แสวงหาความตื่นเต้นเร้าใจ หมายถึง ชอบหรือเสพติดความตื่นเต้นเร้าใจและ/หรืออยากเป็นที่สนใจของคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นอันตรายหรือจะต้องวิตกกังวลมากมายเพียงใดก็ตาม

Cr: ดร.แมรี่ เอลเลน โอทูล ใน Dangerous Instincts

No comments:

Post a Comment