เหตุการณ์
COVID-19 ทำให้พฤติกรรมของคนแปรเปลี่ยนไปด้วย ฉะนั้น พึงสังเกตพฤติกรรมของตนเองและ/หรือพฤติกรรมของคนรอบข้างว่า
แปรเปลี่ยนเป็นพฤติกรรมที่จะนำมาซึ่งปัญหาหรือกลายเป็นบุคคลอันตราย มีอยู่ จำนวน ๓
พฤติกรรม หรือเรียกว่า พฤติกรรม CTD ได้แก่
๑.
พฤติกรรมที่น่าเป็นห่วง (Concerning Behavior) เป็นขั้วที่มีความร้ายแรงน้อยที่สุด
๒.
พฤติกรรมที่น่ากลัว (Threatening Behavior) เป็นพฤติกรรมที่อยู่ระหว่างขั้ว
C กับ D พฤติกรรมของคนจะมีการเปลี่ยนแปลงไปมาอยู่ตลอดเวลา
มันจะไหลลื่นและแปรเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
๓.
พฤติกรรมที่เป็นอันตราย (Dangerous Behavior) เป็นขั้วที่มีความร้ายแรงมากที่สุด
พฤติกรรม
CTD สามารถอธิบายอย่างคร่าว ๆ ที่ควรต้องเข้าใจจดจำให้ได้และตีความเชิงลึกให้ออก
มี ดังนี้
๑.
วู่วาม
หมายถึง กระทำการอันใดโดยแทบไม่เคยคิด (หรืออาจไม่เคยคิด) ถึงผลระยะยาวหรือระยะสั้นที่จะเกิดขึ้นกับตัวเองหรือคนอื่นเลย
๒.
ขี้โมโหอย่างเกินเหตุ หมายถึง ชอบระเบิดอารมณ์อย่างไม่เหมาะสมและเกินจำเป็นในสถานการณ์ต่าง
ๆ คนขี้โมโหพวกนี้ จะไม่สามารถหรือไม่อยากควบคุมความโกรธของตัวเอง คนแบบนี้ จะมีความโกรธที่อัดแน่นและครุกรุ่นอยู่ในทุกอณูของร่างกาย
๓.
หลงตัวเอง
หมายถึง ชอบทำอะไรโดยยึดตัวเองเป็นหลักจองหองพองขน แทบจะไม่เคยเข้าใจหรือห่วงใยคนอื่นเลยพวกหลงตัวเองจะรู้สึกว่า
ตัวเองนั้นเป็นผู้สูงศักดิ์และมีอำนาจเหนือคนอื่น และคิดว่าคนอื่น จะต้องมองว่าตนนั้น
เป็นคนพิเศษที่ควรให้การดูแลในระดับที่แตกต่างไปจากคนปกติทั่วไป คนเหล่านี้ จะเชื่อว่าตนเองนั้น
คือ คนพิเศษที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใครและอยู่ในสถานะที่สูงกว่าคนอื่น
๔.
ไม่เคยเข้าใจในความรู้สึกของผู้อื่น หมายถึง ไม่เคยและไม่อยากจะเข้าใจในความรู้สึกความห่วงใยและความคิดเห็นของคนอื่นเลย
คนแบบนี้ จะไม่เคยเข้าใจในความรู้สึกและไม่เคยเห็นใจใคร
๕.
ชอบสะสมบัญชีความแค้นเอาไว้ในใจ (Injustice Collector) หมายถึง คนเหล่านี้ จะสะสมบัญชีความแค้นหรือเรื่องที่ไม่ยุติธรรม
ทั้งที่เป็นเรื่องจริงหรือมโนไปเอง เอาไว้ในใจจนกว่าชีวิตจะหาไม่ คนเหล่านี้ จะตอบสนองต่อความไม่ยุติธรรมทั้งหมดนี้ในระดับที่เกินกว่าที่รับรู้อยู่ในใจไปเยอะเลย
๖.
มองคนอื่นเป็นวัตถุไปหมด หมายถึง ชอบลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนอื่น
และไม่เคยมองคนอื่นเป็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน คนที่มีพฤติกรรมแบบนี้ อาจไม่เคยมองคนอื่นในฐานะที่เป็นบุคคลเลย
แต่จะมองว่าเป็นข้าวของเครื่องใช้ ทำให้ชอบถือปฏิบัติต่อคนอื่นเหมือนไม่ใช่มนุษย์
๗.
โทษคนอื่นว่าเป็นสาเหตุของความผิดพลาดและปัญหา หมายถึง ชอบมองตัวเองว่าเป็นเหยื่อที่ถูกกระทำ
และไม่เคยคิดที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยแก้ปัญหาชีวิตให้กับใครทั้งหมด ล้วนเป็นความผิดของใครบางคนทั้งนั้น
๘.
หวาดระแวง
หมายถึง รู้สึกเคลือบแคลงในแรงจูงใจและเจตนาของคนอื่นอยู่เสมอ
๙.
ชอบแหกกฎ
หมายถึง คนที่ไม่เคยยึดถือปรัชญาชีวิตที่ว่า ทุกสังคมย่อมต้องมีกฎเกณฑ์ไว้ให้เดินตาม
๑๐.
นิยมความรุนแรง หมายถึง คนที่เคยมีประวัติชอบใช้ความรุนแรงหรือทำเรื่องอันตราย
มาแล้วมากมาย เช่น ข่มขืนทำร้ายร่างกาย ข่มขู่มีเรื่องบนท้องถนนไปทั่ว ฯลฯ
๑๑.
เฝ้าฝันที่จะได้ก่อเหตุรุนแรง หมายถึง มีความคิดที่จะฆ่าตัวตาย ก่อเหตุฆาตกรรมหรือไม่เคยเชื่อในหลักธรรมคำสอนใด
ๆ คนที่มีพฤติกรรมอย่างนี้ จำเป็นจะต้องส่งตัวให้ไปอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตหรือฝ่ายบ้านเมืองโดยมิรอช้า
๑๒.
ติดยาเสพติดและ/หรือเหล้า หมายถึง ชอบเสพยาและ/หรือเหล้า ซึ่งจะยิ่งทำให้มีพฤติกรรม
CTD อย่างอื่นมากขึ้นไปอีก
๑๓.
ควบคุมตัวเองไม่ได้ หมายถึง ไม่สามารถจัดการกับความเครียด ความผิดหวังปัญหาและ/หรือเรื่องยุ่งยากในชีวิตประจำวันได้
๑๔.
จงเกลียดจงชังผู้คนไปทั่ว หมายถึง ไม่ชอบและ/หรือจงเกลียดจงชังคนอื่นหรือคนกลุ่มอื่น
เนื่องจาก ความผิดทั้งที่เป็นเรื่องจริงและที่มโนไปเอง หรือเนื่องจากความเชื่อและความคิดเห็นในเรื่องอื่น
ๆ
๑๕.
แสวงหาความตื่นเต้นเร้าใจ หมายถึง ชอบหรือเสพติดความตื่นเต้นเร้าใจและ/หรืออยากเป็นที่สนใจของคนอื่น
ไม่ว่าจะเป็นอันตรายหรือจะต้องวิตกกังวลมากมายเพียงใดก็ตาม
Cr: ดร.แมรี่ เอลเลน โอ’ทูล ใน Dangerous
Instincts
No comments:
Post a Comment