องค์ความรู้ทางรัฐประศาสนศาสตร์ประกอบด้วยแนวคิดสำคัญ 7 แนวคิด คือ
1) แนวคิดทฤษฎีตั้งเดิม
2) แนวคิดหลักการบริหาร
3) แนวคิดทฤษฎีพฤติกรรมนิยม
4) แนวคิดการบริหารการพัฒนา
5) แนวคิดนโยบายสาธารณะ
6) แนวคิดทางเลือกสาธารณะ
7) แนวคิดการจัดการภาครัฐแนวใหม่ แนวคิดนี้ เน้นการปรับโฉมภาครัฐ (reinventing government) ไปจากเดิม ให้มีลักษณะใกล้เคียงกับองค์การธุรกิจมากขึ้น เป็นระบบที่เน้นการแข่งขันให้บริการสาธารณะ ให้ความสำคัญกับประสิทธิผล (effectiveness) หรือผลปฏิบัติงานและความคุ้มค่า ในการทำงาน จึงมีการนำแนวคิดทางด้านการจัดการสมัยใหม่มาใช้กับการบริหารรัฐกิจด้วย แนวคิดทางรัฐประศาสนศาสตร์ที่สำคัญในกลุ่มนี้ ได้แก่
(1) แนวคิดการจัดการเชิงกลยุทธ์ (strategic management)
(2) แนวคิดการจัดการมุ่งผลสำเร็จ (resulted -based management)
(3) แนวคิดการจัดการคุณภาพทั่วทั้งองค์การ (total quality management)
(4) แนวคิดการปฏิรูปการจัดการภาครัฐ (public management reformation)
ประเทศไทย มีข้อจำกัดด้านความขาดแคลนแนวคิดหรือทฤษฎีทางรัฐประศาสนศาสตร์ หมายถึง การขาดแคลนแนวคิดหรือทฤษฎีทางรัฐประศาสนศาสตร์ที่สอดคล้องกับสภาพทางเศรษฐกิจ สังคม การเมืองและวัฒนธรรมของไทย
ทฤษฎีทางรัฐประศาสนศาสตร์ที่นำมาใช้ในประเทศไทย ส่วนใหญ่พัฒนาขึ้นในบริบทของสังคมตะวันตก ที่ยังไม่เป็นสากล และไม่มีการนำมาวิจัยซ้ำในสังคมไทย จึงนำมาประยุกต์ใช้ได้ยาก
ไม่เหมือนในยุคเริ่มแรกๆ ของการพัฒนาการบริหารในประเทศไทย ดร.ชุบ กาญจนประการ ได้เสนอให้เพิ่มคำว่า PA เข้าไปใน POSDCoRB เป็น PA- POSDCoRB เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทการบริหารรัฐกิจของประเทศไทย กล่าวคือ
1) ต้องมีนโยบาย (P-Policy) ที่แน่ชัด
2) มีการจัดมอบ- กระจายอำนาจ (A- Authority) ที่แน่แน่
3) มีการวางแผน (P-Planning) ที่แน่นอน...
4) มีการจัดองค์การ (O-Organization) ไม่สับสน
5) มีการจัดวางกำลังคน (S-Staffing) ที่มีประสิทธิภาพและใช้คนให้ตรงกับงาน (put the right man on the right job)
6) มีการอำนวยการ (D–Directing ) อย่างนักวิชาการและเป็นมืออาชีพ
7) มีหลักการประสานงาน (Co-Coordinating) โดยการมีมนุษยสัมพันธ์อย่างเชี่ยวชาญ
8) มีการรายงานผล (R-Reporting) การดำเนินงานะชิงประจักษ์และตรวจสอบได้
9) มีหลักการบริหารงบประมาณ( B-Budgeting) อย่างชาญฉลาด
_______________
ทำเนียบรัฐบาล-บ่ายวันที่ 30 ม.ค.60
นายกรัฐมนตรี ประชุม คกก. บริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คกก. สามารถนำเสนอนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินฯ ต่อรัฐบาล ที่มีความสอดคล้องกับบริบทสังคมวัฒนธรรมไทย และมีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติท่ามกลางวิถีการบริหารรัฐกิจไทยในปัจจุบัน ที่มีความไม่สอดประสานกันในทางการบริหาร เพราะมีปัญหาความขัดกันเชิงโครงสร้างทางการบริหารภาครัฐ (structural conflict in public administration) และยังรอคอยการปฏิรูปให้มีความเหมาะสมในทางปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารรัฐกิจแบบ
1) การรวมศูนย์อำนาจที่ส่วนกลาง (centralization)
2) การมอบอำนาจให้กับภูมิภาค (deconcentralization)
3) การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น (centralization)
Community Development (CD) Principles:
1.Non-directive Approach, 2.Self-help, 3.People Participation, and 4.Collaborative Partnership
Monday, 30 January 2017
แนวคิดและองค์ความรู้ทางรัฐประศาสนศาสตร์
"ทฤษฎี (Theories)"
คำว่า "ทฤษฎี (Theories)" นักสังคมศาสตร์ มักหมายถึง ชุดหรือกลุ่มของ ข้อความกลุ่มหนึ่ง ซึ่งนักวิชาการสร้างขึ้นมา เพื่ออธิบายหรือทำนายปรากฏการณ์ทางสังคม ที่พบเห็นกลุ่มของข้อความเหล่านี้มีลักษณะสำคัญ คือ ประกอบขึ้นด้วยข้อความที่เป็นข้อทฤษฎี (propositions) ซึ่งหมายถึง ข้อความที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์เชิงเหตุและผลระหว่างแนวคิดสำคัญ (concepts) หรือแนวคิดรวบยอด (constructs) ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ในเรื่องนั้น ข้อความเหล่านี้จึงเป็นข้อความทั่วไปไม่เจาะจง (general statements) แต่มีความหมายครอบคลุมเหตุการณ์ที่เฉพาะเจาะจงได้หลายเหตุการณ์ และถูกนำมาเชื่อมโยงให้สัมพันธ์กันอย่างเป็นระบบหรือเป็นเหตุเป็นผลเชิงตรรกะ กลายเป็นทฤษฎีที่สามารถนำไปทดสอบความถูกต้องกับข้อเท็จจริง (facts) หรือทดสอบเชิงประจักษ์ได้ และสามารถใช้อธิบายปรากฏการณ์ทางสังคมที่สนใจได้ระดับหนึ่ง
สำหรับทฤษฎีเชิงเนี้อหา (substantive theory) เป็นแนวคิดหรือทฤษฎีที่เน้นการบ่งบอกถึงเนี้อหาสาระสำคัญของสิ่งที่ทฤษฎีมุ่งพรรณาหรืออธิบายว่าเป็นอะไร อย่างไร เช่น ทฤษฎีหลักการบริหารของฟาโยล ซึ่งอธิบายถึงหลักการสำคัญของการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ
ส่วนทฤษฎีเชิงวิธีการ (procedural theory) เป็นแนวคิดหรือทฤษฎีที่เน้นบ่งบอกถึงกระบวนการในการคิด การวิเคราะห์ หรือวิธีการในการทำงาน เช่น ทฤษฎีระบบ (system theory)
การเรียนในศาสตร์แทบทุกเขนงวิชา ผู้เรียนจะต้องรียนรู้ถึงแนวคิดเชิงทฤษฎีที่มีอยู่ในแขนงวิชานั้นๆ ทำให้ผู้เรียนสามารถอาศัยประสบการณ์ของบุคคลอื่นหรือนักวิชาการผู้สร้างสรรทฤษฎีนั่นเอง และสามารถอาศัยแนวความคิดกว้างๆ ทั่วไปของทฤษฎีเพื่อทำความทำใจความเป็นจริงทางสังคม (social reality) ให้เป็นระบบมากขึ้น
Subscribe to:
Posts (Atom)